เทคนิคเลือกงานฟรีแลนซ์ที่ตอบโจทย์ Digital Nomad

การเป็นดิจิทัลโนแมดนั้นหมายถึงการใช้ชีวิตเดินทาง (Traveling) ไปยังที่ต่างๆ อย่างต่อเนื่อง พร้อมกับทำงานฟรีแลนซ์ (Freelance Work) ไปด้วย ดังนั้นการเลือกโปรเจ็กต์งานที่เหมาะสมจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพื่อให้สามารถทำงานได้อย่างมีประสิทธิภาพ (Efficiency) และบรรลุความสมดุล (Balance) ระหว่างชีวิตและงาน ต่อไปนี้เป็นข้อควรพิจารณาในการเลือกโปรเจ็กต์ฟรีแลนซ์ระหว่างการเดินทาง:

1. ประเภทโปรเจ็กต์ (Project Types)

เลือกงานที่สามารถทำงานระยะไกล (Remote Work) ได้ เช่น งานเขียน (Writing), งานออกแบบ (Design), งานโปรแกรมมิ่ง (Programming), งานที่ปรึกษา (Consulting) เป็นต้น และหลีกเลี่ยงงานที่ต้องอยู่ประจำที่ (On-site) หรือเดินทางบ่อย (Frequent Traveling)

2. ระยะเวลา (Duration)

เลือกโปรเจ็กต์ระยะสั้น (Short-term) หรือระยะกลาง (Mid-term) เพื่อความยืดหยุ่น (Flexibility) ในการเดินทาง และหลีกเลี่ยงงานระยะยาว (Long-term) ที่อาจขัดขวางการเดินทาง

3. กำหนดส่งงาน (Deadlines)

เลือกงานที่กำหนดส่งงานยืดหยุ่น (Flexible Deadlines) หรือไม่เร่งด่วนมาก และหลีกเลี่ยงงานที่มีกำหนดส่งแน่นอน (Strict Deadlines) มากเกินไป

4. งบประมาณ (Budget)

เลือกงานที่มีงบประมาณ (Budgets) เหมาะสมกับระยะเวลาและความซับซ้อน และหลีกเลี่ยงงบประมาณต่ำเกินไป (Low Budgets)

5. ลูกค้า (Clients)

เลือกลูกค้าที่เข้าใจและสนับสนุนการทำงานแบบดิจิทัลโนแมด หลีกเลี่ยงลูกค้าที่ต้องการการติดต่อแบบเผชิญหน้า (Face-to-face) บ่อย

6. โอกาสขยายงาน (Growth Opportunities)

พิจารณางานที่มีโอกาสขยายหรือรับงานต่อเนื่อง (Recurring Projects) ในอนาคต แต่อย่าให้งานมากเกินไปจนขัดขวางการเดินทาง

7. ความหลากหลายทักษะ (Skill Variety)

พิจารณารับงานหลายประเภทเพื่อพัฒนาทักษะ (Skills) ที่หลากหลาย แต่อย่าทำงานเกินขีดความสามารถ (Overworking)

การเลือกโปรเจ็กต์ที่เหมาะสมจะช่วยให้คุณจัดสรรเวลาทำงานและเดินทางได้อย่างลงตัว ส่งผลให้การเป็นดิจิทัลโนแมดเป็นประสบการณ์ที่สนุกสนาน (Enjoyable) และมีความสุข (Fulfilling) มากขึ้น

อ่านเพิ่มเติม กด https://www.bossbureau.com/freelancer /