7เหตุผลที่บริษัททั่วโลกเริ่มยกเลิกแผนกไอทีในบริษัทของตัวเอง

ยกเลิกแผนกไอทีในบริษัทกำลังกลายเป็นแนวโน้มที่หลายองค์กรทั่วโลกเลือกใช้ในยุคดิจิทัลที่เทคโนโลยีเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว บริษัทต่างๆ เริ่มปรับตัวเพื่อลดภาระและเพิ่มประสิทธิภาพในการดำเนินงานแล้วหันมาใช้บริการจากภายนอก ซึ่งช่วยลดต้นทุนและเพิ่มความยืดหยุ่นในการดำเนินธุรกิจ บทความนี้จะอธิบายเหตุผลสำคัญที่ทำให้แนวโน้มนี้เป็นที่นิยม พร้อมตัวอย่างจากบริษัทชั้นนำทั่วโลกที่ใช้กลยุทธ์นี้อย่างมีประสิทธิภาพ

1. ทำไมหลายบริษัทเลือก ยกเลิกแผนกไอทีในบริษัท และหันไปใช้ IT Outsourcing?

IT Outsourcing ช่วยลดต้นทุนในการบริหารจัดการไอที เช่น ค่าบุคลากร ซอฟต์แวร์ และการบำรุงรักษา ซึ่งช่วยให้บริษัทสามารถโฟกัสไปที่การพัฒนาธุรกิจได้ดียิ่งขึ้น การใช้บริการจากภายนอกยังช่วยลดภาระในการจัดการทรัพยากรมนุษย์ที่เกี่ยวข้องกับไอที ตัวอย่างเช่น Unilever ที่เลือกใช้บริการของ IBM และ Accenture ในการดูแลระบบไอที ทำให้ Unilever สามารถมุ่งเน้นการพัฒนาสินค้าและการตลาดได้มากขึ้น

2. การใช้เทคโนโลยีคลาวด์เพื่อความยืดหยุ่น

การใช้งาน Cloud Computing ทำให้การจัดการด้านไอทีสะดวกและรวดเร็วขึ้น บริษัทสามารถเช่าเซิร์ฟเวอร์และซอฟต์แวร์ผ่านผู้ให้บริการคลาวด์ แทนที่จะต้องดูแลระบบเอง ซึ่งช่วยลดภาระการจัดการโครงสร้างพื้นฐานด้านไอที ตัวอย่างเช่น Netflix ที่ใช้บริการ Amazon Web Services (AWS) ในการบริหารระบบทั้งหมด ข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ AWSทำให้ Netflix สามารถเน้นที่การพัฒนาคอนเทนต์และประสบการณ์การใช้งานของผู้ใช้ได้อย่างเต็มที่

3. การใช้ AI และระบบอัตโนมัติเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพ

การนำเทคโนโลยี AI และระบบอัตโนมัติมาช่วยงานด้านไอทีทำให้หลายบริษัทลดการพึ่งพาแผนกไอทีภายใน AI สามารถตรวจสอบและวิเคราะห์ข้อมูล รวมถึงแก้ปัญหาได้แบบเรียลไทม์ ลดความจำเป็นในการใช้บุคลากร ตัวอย่างเช่น JP Morgan Chase ที่หันมาใช้ Microsoft Azure และ Google Cloud เพื่อลดภาระงานในการจัดการข้อมูลและเพิ่มประสิทธิภาพในการให้บริการ

4. การปรับตัวอย่างรวดเร็วและยืดหยุ่นต่อเทคโนโลยีใหม่

การเปลี่ยนแปลงเทคโนโลยีที่เกิดขึ้นอย่างรวดเร็วทำให้บริษัทต้องปรับตัวอยู่เสมอ การมีแผนกไอทีภายในอาจทำให้การปรับตัวล่าช้าเพราะต้องฝึกอบรมบุคลากรใหม่ การใช้ผู้เชี่ยวชาญภายนอกจะช่วยให้บริษัทสามารถปรับเปลี่ยนเทคโนโลยีได้ทันเวลาและสอดคล้องกับเทรนด์ใหม่ๆ ในอุตสาหกรรม

5. ลดภาระการจัดการและเพิ่มโอกาสพัฒนาธุรกิจหลัก

การยกเลิกแผนกไอทีภายในช่วยให้บริษัทสามารถลดภาระในการบริหารและนำทรัพยากรไปใช้ในส่วนที่สร้างมูลค่าให้กับธุรกิจได้ เช่น การพัฒนาผลิตภัณฑ์และการขยายตลาด ซึ่งช่วยให้ธุรกิจเติบโตได้อย่างมั่นคงและรวดเร็วยิ่งขึ้น

6. การรักษาความปลอดภัยข้อมูลด้วยผู้เชี่ยวชาญภายนอก

บริการคลาวด์จากผู้ให้บริการภายนอกมักมีมาตรการรักษาความปลอดภัยที่ได้มาตรฐานสูง ทำให้บริษัทมั่นใจว่าการจัดเก็บและป้องกันข้อมูลจะมีประสิทธิภาพมากขึ้น ลดความเสี่ยงในการถูกโจมตี ตัวอย่างเช่น การใช้บริการคลาวด์จากผู้ให้บริการที่ได้รับการรับรองเช่น Amazon, Microsoft หรือ Google ที่มีมาตรการความปลอดภัยที่เข้มงวด

7. มุ่งเน้นกิจกรรมหลักของธุรกิจ

หลายบริษัทมองว่าแผนกไอทีเป็นส่วนที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการสร้างมูลค่าหลัก การลดแผนกที่ไม่เกี่ยวข้องโดยตรงช่วยให้บริษัทสามารถนำทรัพยากรไปใช้ในส่วนสำคัญ เช่น การสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ หรือเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขัน

สรุป

การยกเลิกแผนกไอทีในบริษัทไม่ใช่เพียงแค่การลดภาระ แต่เป็นกลยุทธ์ที่ช่วยให้ธุรกิจสามารถโฟกัสไปที่การเติบโตและขยายตัวในด้านที่สร้างมูลค่าให้กับองค์กรมากขึ้น ทั้งยังทำให้บริษัทสามารถปรับตัวเข้ากับเทคโนโลยีใหม่ๆ ได้อย่างรวดเร็วและมีความยืดหยุ่นสูง การใช้บริการ IT Outsourcing และเทคโนโลยีคลาวด์ เช่นตัวอย่างของ Netflix, Unilever และ JP Morgan Chase ช่วยให้พวกเขาประสบความสำเร็จในยุคดิจิทัล

ติดตามเทรนด์ธุรกิจใหม่ได้ ที่นี่