
- ช่วยให้แบรนด์สามารถเอาชนะคู่แข่งได้อย่างแยบยล
นอกจากจะฟังเสียงของผู้บริโภคแล้ว ก็ยังสามารถสอดส่องกลยุทธ์ของคู่แข่ง ด้วยการ Set คีย์เวิร์ดเกี่ยวกับคู่แข่ง เช่น ชื่อแบรนด์คู่แข่ง ผลิตภัณฑ์และ Service ของคู่แข่ง เพื่อดูทิศทางของ Sentiment ทัศนคติที่มีต่อแบรนด์ของคู่แข่งเป็นอย่างไร มีใครกล่าวถึงแบรนด์คู่แข่งในเชิงลบอย่างไรบ้าง เพื่อนำมาปรับปรุงพัฒนาแบรนด์ของเราให้ดียิ่งขึ้นในอนาคต
. - แก้ปัญหาที่เกิดจาก Crisis ได้ทันท่วงที
เหตุการณ์ที่ส่งผลกระทบในเชิงลบให้กับแบรนด์แบบกะทันหัน ซึ่ง Social Listening Tools ช่วยให้รับมือกับภาวะวิกฤติ ลดการปะทะไม่ให้เกิดไฟลามทุ่งแล้ว
โดยสามารถตรวจจับ Sentiment หากเริ่มมีการพูดถึงในเชิงลบเป็นจำนวนมาก ก็สามารถวางแผนแก้สถานการณ์ได้ทันท่วงที
. - ทำการตลาดแบบ Hyper – Personalization ได้
ยิ่งแบรนด์ตอบสนองความต้องการของลูกค้าได้เร็ว
และเฉพาะกลุ่มมากเท่าไหร่ ยิ่งช่วงชิงลูกค้าใหม่
ให้กลายเป็นลูกค้าประจำได้มากเท่านั้น การรับฟังเสียงลูกค้าจึงเป็นสิ่งสำคัญ เพราะจะทำให้เรารู้ว่าลูกค้าต้องการอะไร ที่ไหน อย่างไรอย่างละเอียด และตอบสนองลูกค้าได้รวดเร็วทันใจ
. - ช่วยวิเคราะห์ Brand Health Check
ตรวจหาข้อบกพร่อง หาความเสี่ยง และความผิดปกติที่อาจจะนำไปสู่โรคร้ายในอนาคตได้ โดยประเมินจากการตรวจจับการกล่าวถึงของแบรนด์ได้เช่นกันว่าแบรนด์สุขภาพแข็งแรงดีมั้ย เราอยู่ Position ไหนของตลาด มีจุดอ่อนส่วนใดที่แบรนด์ต้องแก้ไขปรับปรุงหรือไม่ ภาพลักษณ์เป็นอย่างไรในสายตาผู้บริโภค
. - ช่วยพัฒนาสินค้า บริการให้ดียิ่งยิ่งขึ้นไป
กลุ่มลูกค้าพูดถึงแบรนด์หรือสินค้าของเราว่าอย่างไร
เป็นสิ่งสำคัญต่อการพัฒนาแบรนด์เสมอ ซึ่งหากมี Social Listening tools อยู่ในมือ ก็สามารถวิเคราะห์ความต้องการของลูกค้าแบบเรียลไทม์เพื่อที่จะได้นำความต้องการเหล่านั้นมาพัฒนาการให้บริการ สร้างฐาน Brand Loyalty ที่มั่นคง และแบรนด์ไหนที่ยึดหลัก Customer Centric Social Listening Tools จะรวมเสียงผู้บริโภคจากทุกแพลตฟอร์มมาไว้ในที่เดียว ง่าย สะดวกสะบายในการต่อยอดการบริการให้มีประสิทธิภาพ และต่อยอดทางการตลาดได้อีกด้วย
.
Follow Us on Facebook :https://www.facebook.com/share/LW2mUurVcsWfnXUT/?mibextid=qi2Omg
ข่าวการตลาด อ่านเพิ่ม กด https://www.bossbureau.com/marketing/