เทคโนโลยีชีวภาพ พลังวิทยาศาสตร์ สู่จานอาหารไทย

เคยไหมครับ ที่รู้สึกเบื่อหน่ายกับอาหารเดิมๆ อยากทานอะไรใหม่ๆ ดีต่อสุขภาพ หรือ กังวลเรื่องความปลอดภัยของอาหาร?

ถ้าใช่ บอกเลยครับว่า คุณกำลังก้าวเข้าสู่ยุคของ “เทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร” ยุคที่วิทยาศาสตร์กำลังเปลี่ยนโฉมหน้าวงการอาหารไทยไปอย่างสิ้นเชิง

ลองจินตนาการดูสิครับ ว่าต่อไปนี้…

ข้าวหอมมะลิ ของเรา จะทนทานต่อโรคใบไหม้ เก็บเกี่ยวได้นานขึ้น โดยไม่ต้องใช้สารเคมี

สัตว์เลี้ยง ของเรา จะมีสุขภาพแข็งแรง โตเร็ว โดยไม่ต้องพึ่งยาปฏิชีวนะ

โยเกิร์ต ของเรา จะเต็มไปด้วยจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัส ดีต่อลำไส้ ทานแล้วระบบขับถ่ายดี๊ดี

น้ำปลา ของเรา จะมีรสชาติกลมกล่อม ผ่านกระบวนการผลิตที่ปลอดภัย ถูกหลักอนามัย

เด็กน้อย ของเรา จะมีนมผงเสริมโพรไบโอติกส์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารแข็งแรง

ทั้งหมดนี้ ล้วนเป็นผลพวงจาก “เทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร” เทคโนโลยีสุดล้ำที่นำเอาพลังของสิ่งมีชีวิตมาผสมผสานกับวิทยาศาสตร์ชั้นสูง

ตัวอย่างงานวิจัยและพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพทางอาหารในประเทศไทย:

การพัฒนาข้าวหอมมะลิ 105: โดยกรมการข้าว กระทรวงเกษตรและสหกรณ์ ข้าวหอมมะลิ 105 พัฒนาขึ้นเพื่อทนทานต่อโรคใบไหม้ ข้าวเหนียวดำพันธุ์ กข 60 พัฒนาโดยมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ เพิ่ม โปรตีนและใยอาหาร

การพัฒนาอาหารสัตว์เสริมเอนไซม์: โดยบริษัทเอกชน ช่วยให้สัตว์ย่อยอาหารได้ดีขึ้น ดูดซึมสารอาหารได้เต็มที่

การพัฒนาโยเกิร์ต: โดยบริษัทนมยักษ์ใหญ่ ใชจุลินทรีย์แลคโตบาซิลลัสในการหมัก เพิ่มจุลินทรีย์ดีต่อลำไส้

การพัฒนาน้ำปลาปลอดสารเคมี: โดยกลุ่มวิจัยในมหาวิทยาลัย ใช้วิธีการหมักแบบดั้งเดิม ควบคุมคุณภาพอย่างเข้มงวด

การพัฒนาผลิตภัณฑ์นมผงสำหรับเด็ก: โดยบริษัทเวชภัณฑ์ เสริมโพรไบโอติกส์ ช่วยให้ระบบย่อยอาหารแข็งแรง

อย่างไรก็ตาม เทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร ยังมีข้อจำกัดและความเสี่ยงอยู่บ้าง เช่น:

ต้นทุนการวิจัยและพัฒนาสูง: เทคโนโลยีชีวภาพทางอาหารบางชนิด ต้องใช้งบประมาณในการวิจัยและพัฒนาสูง อาจเข้าถึงได้ยากสำหรับธุรกิจขนาดเล็ก

ประเด็นด้านจริยธรรมและความปลอดภัย: ยังมีความกังวลเกี่ยวกับความปลอดภัยของอาหารที่ผลิตจากเทคโนโลยีชีวภาพ เช่น การดัดแปลงพันธุกรรม

ผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม: การใช้เทคโนโลยีชีวภาพทางอาหารบางชนิด อาจส่งผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้สารเคมี

ดังนั้น การพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร จำเป็นต้องคำนึงถึงทั้งประโยชน์และความเสี่ยง

ภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคประชาสังคม จำเป็นต้องร่วมมือกันเพื่อพัฒนาเทคโนโลยีชีวภาพทางอาหารอย่างมีความรับผิดชอบสร้างสมดุลระหว่างประโยชน์และความเสี่ยงคุ้มครองผู้บริโภค และสิ่งแวดล้อม

เทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร ไม่ได้เป็นแค่เทคโนโลยี แต่เปรียบเสมือน “อนาคต” ของวงการอาหารไทย ที่จะยกระดับคุณภาพชีวิต สร้างความมั่นคงทางอาหาร และนำพาประเทศไทยไปสู่ความยั่งยืน

แล้วคุณล่ะครับ พร้อมหรือยังที่จะเป็นส่วนหนึ่งของ “ยุคทอง” ของเทคโนโลยีชีวภาพทางอาหาร?

ข่าวธุรกิจ อ่านเพิ่ม กด https://www.bossbureau.com/news/