ให้ฟีดแบ็กอย่างสม่ำเสมอและตรงประเด็น การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาเป็นกุญแจสำคัญ การให้ฟีดแบ็กเป็นประจำจะทำให้พนักงานรู้ว่าพวกเขากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องและมีโอกาสพัฒนาตัวเอง ทั้งนี้ไม่ควรจำกัดฟีดแบ็กเฉพาะการประเมินประจำปีเท่านั้น แต่ควรมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พนักงานรู้สึกถึงการเติบโตในงานและการสนับสนุนจากองค์กร ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจและแรงจูงใจในการทำงาน มอบอิสระและให้อำนาจในการตัดสินใจ Gen Z มีลักษณะนิสัยชอบการทำงานที่มีอิสระและยืดหยุ่น พวกเขาต้องการที่จะมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจและลงมือทำงาน เมื่อพนักงานรู้สึกว่าได้รับความไว้วางใจจากองค์กรและสามารถแสดงความคิดเห็นหรือเสนอไอเดียได้โดยไม่มีข้อจำกัด ความกระตือรือร้นในการทำงานจะเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือการทำงานที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น ยอมรับและเฉลิมฉลองความสำเร็จ การยอมรับผลงานและความสำเร็จของพนักงานมีผลต่อขวัญกำลังใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จเล็กหรือใหญ่ การชื่นชมและเฉลิมฉลองผ่านรางวัล การกล่าวขอบคุณในที่ประชุม หรือแม้แต่การประกาศผ่านช่องทางภายในขององค์กร จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าความพยายามของพวกเขามีความหมาย การเฉลิมฉลองความสำเร็จยังสามารถส่งเสริมให้ทีมงานรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี สร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน การจัดสรรเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น เช่น การทำงานจากที่บ้าน หรือการกำหนดเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของพนักงาน ช่วยสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน ซึ่งเป็นสิ่งที่ Gen Z ให้ความสำคัญมาก การมีอิสระในการจัดการเวลาทำงานจะช่วยลดความเครียดและทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น ส่งผลให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและมีความสุขในการทำงาน ส่งเสริมการพัฒนาและเรียนรู้ คน Gen Z มักมุ่งเน้นที่การพัฒนาตนเองและความก้าวหน้าในอาชีพ การสนับสนุนให้พนักงานได้เข้าร่วมการอบรม เวิร์กช็อป หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนจากองค์กร ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานมากขึ้น การมีโปรแกรมพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจในอนาคตของพวกเขา ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาพนักงานไว้ในระยะยาว ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน การดูแลสุขภาพของพนักงานทั้งด้านร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้าม โปรแกรมสุขภาพ เช่น การจัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย โปรแกรมสนับสนุนด้านจิตใจ หรือการดูแลสุขภาพจิตผ่านการให้คำปรึกษา ล้วนช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาเป็นที่ใส่ใจและมีความสุขในที่ทำงาน นอกจากนี้การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ยังช่วยเพิ่มความสนุกสนานและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน ซึ่งช่วยลดความเครียดและทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น สื่อสารอย่างเปิดเผยและโปร่งใส Gen Z ต้องการความโปร่งใสในการสื่อสาร โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ขององค์กร การสื่อสารที่เปิดเผยและชัดเจนจะสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับพนักงาน เมื่อพนักงานได้รับข้อมูลที่ตรงไปตรงมา พวกเขาจะรู้สึกเชื่อมโยงกับเป้าหมายของบริษัทมากขึ้น และสามารถร่วมทำงานเพื่อความสำเร็จขององค์กรได้อย่างเต็มที่
สรุป การรักษาพนักงาน Gen Z ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสวัสดิการที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกมีคุณค่า ได้รับการยอมรับ และมีโอกาสพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การนำ 7 แนวทางนี้ไปปรับใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถรักษาพนักงานรุ่นใหม่เหล่านี้ไว้ได้ในระยะยาว และทำให้องค์กรเติบโตไปพร้อมกับพวกเขาอย่างยั่งยืน
อ่านเพิ่มเติม กด https://www.bossbureau.co
Follow Us on Facebook: https://web.facebook.com/bossbureau22/?_rdc=1&_rdr&wtsid=rdr_01RhQiKB0NezxbK30