Newsletter Subscribe

Enter your email address below and subscribe to our newsletter

Subscription Form

7 แนวทางในการเพิ่มแรงจูงใจและรักษาพนักงาน Gen Z

  1. ให้ฟีดแบ็กอย่างสม่ำเสมอและตรงประเด็น
    การสื่อสารที่ชัดเจนและตรงไปตรงมาเป็นกุญแจสำคัญ
    การให้ฟีดแบ็กเป็นประจำจะทำให้พนักงานรู้ว่าพวกเขากำลังเดินไปในทิศทางที่ถูกต้องและมีโอกาสพัฒนาตัวเอง
    ทั้งนี้ไม่ควรจำกัดฟีดแบ็กเฉพาะการประเมินประจำปีเท่านั้น
    แต่ควรมีการสื่อสารอย่างต่อเนื่องเพื่อให้พนักงานรู้สึกถึงการเติบโตในงานและการสนับสนุนจากองค์กร
    ซึ่งช่วยเพิ่มความมั่นใจและแรงจูงใจในการทำงาน
  2. มอบอิสระและให้อำนาจในการตัดสินใจ
    Gen Z มีลักษณะนิสัยชอบการทำงานที่มีอิสระและยืดหยุ่น
    พวกเขาต้องการที่จะมีบทบาทสำคัญในการตัดสินใจและลงมือทำงาน
    เมื่อพนักงานรู้สึกว่าได้รับความไว้วางใจจากองค์กรและสามารถแสดงความคิดเห็นหรือเสนอไอเดียได้โดยไม่มีข้อจำกัด
    ความกระตือรือร้นในการทำงานจะเพิ่มขึ้น ผลลัพธ์ที่ได้คือการทำงานที่สร้างสรรค์และมีประสิทธิภาพมากขึ้น
  3. ยอมรับและเฉลิมฉลองความสำเร็จ
    การยอมรับผลงานและความสำเร็จของพนักงานมีผลต่อขวัญกำลังใจอย่างมาก ไม่ว่าจะเป็นความสำเร็จเล็กหรือใหญ่
    การชื่นชมและเฉลิมฉลองผ่านรางวัล การกล่าวขอบคุณในที่ประชุม หรือแม้แต่การประกาศผ่านช่องทางภายในขององค์กร
    จะช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าความพยายามของพวกเขามีความหมาย
    การเฉลิมฉลองความสำเร็จยังสามารถส่งเสริมให้ทีมงานรู้สึกใกล้ชิดกันมากขึ้น และสร้างบรรยากาศการทำงานที่ดี
  4. สร้างความยืดหยุ่นในการทำงาน
    การจัดสรรเวลาทำงานที่ยืดหยุ่น เช่น การทำงานจากที่บ้าน
    หรือการกำหนดเวลาทำงานที่ยืดหยุ่นตามความต้องการของพนักงาน ช่วยสร้างสมดุลระหว่างชีวิตส่วนตัวและการทำงาน
    ซึ่งเป็นสิ่งที่ Gen Z ให้ความสำคัญมาก
    การมีอิสระในการจัดการเวลาทำงานจะช่วยลดความเครียดและทำให้พนักงานมีประสิทธิภาพในการทำงานมากขึ้น
    ส่งผลให้ทีมสามารถทำงานร่วมกันได้อย่างราบรื่นและมีความสุขในการทำงาน
  5. ส่งเสริมการพัฒนาและเรียนรู้
    คน Gen Z มักมุ่งเน้นที่การพัฒนาตนเองและความก้าวหน้าในอาชีพ การสนับสนุนให้พนักงานได้เข้าร่วมการอบรม
    เวิร์กช็อป หรือการเรียนรู้ทักษะใหม่ๆ เป็นการแสดงให้เห็นถึงการสนับสนุนจากองค์กร
    ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตนเองมีคุณค่าและมีโอกาสเติบโตในหน้าที่การงานมากขึ้น
    การมีโปรแกรมพัฒนาทักษะอย่างต่อเนื่องจะทำให้พนักงานรู้สึกว่าองค์กรใส่ใจในอนาคตของพวกเขา
    ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญในการรักษาพนักงานไว้ในระยะยาว
  6. ส่งเสริมสุขภาพและความเป็นอยู่ที่ดีของพนักงาน
    การดูแลสุขภาพของพนักงานทั้งด้านร่างกายและจิตใจเป็นสิ่งที่องค์กรไม่ควรมองข้าม โปรแกรมสุขภาพ เช่น
    การจัดกิจกรรมส่งเสริมการออกกำลังกาย โปรแกรมสนับสนุนด้านจิตใจ หรือการดูแลสุขภาพจิตผ่านการให้คำปรึกษา
    ล้วนช่วยให้พนักงานรู้สึกว่าพวกเขาเป็นที่ใส่ใจและมีความสุขในที่ทำงาน
    นอกจากนี้การจัดกิจกรรมสร้างสรรค์ยังช่วยเพิ่มความสนุกสนานและสร้างความสัมพันธ์ระหว่างพนักงาน
    ซึ่งช่วยลดความเครียดและทำให้พนักงานมีแรงจูงใจในการทำงานมากขึ้น
  7. สื่อสารอย่างเปิดเผยและโปร่งใส
    Gen Z ต้องการความโปร่งใสในการสื่อสาร โดยเฉพาะเรื่องเกี่ยวกับเป้าหมายและวิสัยทัศน์ขององค์กร

การสื่อสารที่เปิดเผยและชัดเจนจะสร้างความเชื่อมั่นและความไว้วางใจให้กับพนักงาน
เมื่อพนักงานได้รับข้อมูลที่ตรงไปตรงมา พวกเขาจะรู้สึกเชื่อมโยงกับเป้าหมายของบริษัทมากขึ้น
และสามารถร่วมทำงานเพื่อความสำเร็จขององค์กรได้อย่างเต็มที่

สรุป
การรักษาพนักงาน Gen Z ไม่ใช่เพียงแค่เรื่องของสวัสดิการที่ดีเท่านั้น แต่ยังต้องสร้างสภาพแวดล้อมที่พนักงานรู้สึกมีคุณค่า
ได้รับการยอมรับ และมีโอกาสพัฒนาอย่างต่อเนื่อง การนำ 7
แนวทางนี้ไปปรับใช้จะช่วยให้องค์กรสามารถรักษาพนักงานรุ่นใหม่เหล่านี้ไว้ได้ในระยะยาว
และทำให้องค์กรเติบโตไปพร้อมกับพวกเขาอย่างยั่งยืน

อ่านเพิ่มเติม กด https://www.bossbureau.co

Follow Us on Facebook: https://web.facebook.com/bossbureau22/?_rdc=1&_rdr&wtsid=rdr_01RhQiKB0NezxbK30