แม้ว่าทั้งชาวอายุยืนใน Blue Zone และคนอเมริกันต่างก็กินคาร์โบไฮเดรตเป็นอาหารหลัก แต่ประเภทและแหล่งที่มาของคาร์โบไฮเดรตที่พวกเขากินนั้นต่างกันอย่างมาก ซึ่งส่งผลต่อสุขภาพและอายุยืนของพวกเขา
1. ประเภทของคาร์โบไฮเดรต:
ชาวอายุยืน: กินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนเป็นส่วนใหญ่ เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วเมล็ดแห้ง ผักและผลไม้ คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ย่อยช้า ให้พลังงานอย่างยั่งยืน และอุดมไปด้วยใยอาหาร วิตามิน และแร่ธาตุคนอเมริกัน: กินคาร์โบไฮเดรตเชิงเดี่ยวเป็นส่วนใหญ่ เช่น ข้าวขาว ขนมปังขาว น้ำตาล และแปรรูป คาร์โบไฮเดรตเหล่านี้ย่อยเร็ว ทำให้ระดับน้ำตาลในเลือดเพิ่มขึ้นอย่างรวดเร็ว และขาดสารอาหารสำคัญ2. แหล่งที่มาของคาร์โบไฮเดรต:
ชาวอายุยืน: กินคาร์โบไฮเดรตจากพืชเป็นหลัก เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วเมล็ดแห้ง ผักและผลไม้ แหล่งคาร์โบไฮเดรตเหล่านี้มักมีใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระสูงคนอเมริกัน: กินคาร์โบไฮเดรตแปรรูปจากสัตว์เป็นส่วนใหญ่ เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว น้ำตาล และอาหารจานด่วน แหล่งคาร์โบไฮเดรตเหล่านี้มักมีใยอาหาร วิตามิน แร่ธาตุ และสารต้านอนุมูลอิสระต่ำ แต่มีไขมันอิ่มตัวและโซเดียมสูง3. ปริมาณการบริโภค:
ชาวอายุยืน: กินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่พอเหมาะ ประมาณ 40-60% ของปริมาณแคลอรี่ทั้งหมดคนอเมริกัน: กินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่สูง ประมาณ 50-60% ของปริมาณแคลอรี่ทั้งหมดผลลัพธ์:
ชาวอายุยืน: มีสุขภาพดี อายุยืนยาว และมีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังต่ำ เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งคนอเมริกัน: มีความเสี่ยงต่อโรคเรื้อรังสูง เช่น โรคหัวใจ โรคเบาหวาน และโรคมะเร็งสรุป:
ประเภท แหล่งที่มา และปริมาณการบริโภคคาร์โบไฮเดรตที่ต่างกัน ส่งผลต่อสุขภาพและอายุยืนของชาวอายุยืนใน Blue Zone และคนอเมริกัน
คำแนะนำ:
เลือกกินคาร์โบไฮเดรตเชิงซ้อนจากพืชเป็นหลัก เช่น ธัญพืชไม่ขัดสี ถั่วเมล็ดแห้ง ผักและผลไม้ จำกัดการบริโภคคาร์โบไฮเดรตแปรรูปจากสัตว์ เช่น ขนมปังขาว ข้าวขาว น้ำตาล และอาหารจานด่วน กินคาร์โบไฮเดรตในปริมาณที่พอเหมาะ ประมาณ 40-60% ของปริมาณแคลอรี่ทั้งหมด การกินคาร์โบไฮเดรตอย่างชาญฉลาด เป็นส่วนหนึ่งของการใช้ชีวิตเพื่อสุขภาพที่ดีและอายุยืนยาว
Follow Us on Facebook: https://web.facebook.com/bossbureau22/?_rdc=1&_rdr&wtsid=rdr_01RhQiKB0NezxbK30