
Newsletter Subscribe
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
Enter your email address below and subscribe to our newsletter
มะเร็งปากมดลูก ปัจจุบันมีการศึกษาว่าเกิดจากเชื้อไวรัส เอชพีวี (Human Papillomavirus) เป็นปัญหาทางสาธารณสุขที่สำคัญ ประมาณ 80 % จะพบในกลุ่มช่วงอายุ 30-60 ปี และ 20 % ในกลุ่มอายุมากกว่า 60 ปี ซึ่งมีความน่ากลัวสำหรับสตรี เนื่องจากการเป็นมะเร็งปากมดลูก ในช่วงแรกเริ่ม จะไม่มีอาการใดๆ ไม่มีสัญญาณเตือน แต่อาการกลับเด่นชัดขึ้นเมื่อลุกลามแพร่กระจายไปอวัยวะต่างๆ ปัจจุบันทั่วโลกได้รณรงค์ในการกำจัดโรคมะเร็งปากมดลูกให้หมดไป เพราะมีทางป้องกันได้แก่ การฉีดวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก และการตรวจภายในเป็นประจำในหญิงวัยเจริญพันธุ์จะสามารถวินิจฉัยโรคได้ก่อนที่จะเป็นมะเร็ง และทำการรักษาได้ทัน
ผู้ที่มีความเสี่ยงมะเร็งปากมดลูกได้แก่
-หญิงที่เริ่มมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุน้อย
-หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับคู่นอนหลายคน (จะเพิ่มโอกาสการได้รับเชื้อ HPV)
-หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีภรรยาหรือคู่นอนเป็นมะเร็งปากมดลูก
-หญิงที่มีเพศสัมพันธ์กับชายที่มีโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์
-หญิงที่มีปํญหาด้านภูมิคุ้มกันบกพร่อง เช่น โรคเอดส์ หรือ ใช้ยากดภูมิคุ้มกัน
-หญิงที่สูบบุหรี่ รวมถึงคนใกล้ตัวสูบบุหรี่
อาการเตือนที่ต้องมาพบแพทย์
คำแนะนำในการเข้ารับการตรวจคัดกรองมะเร็งปากมดลูก
ปัจจุบันแนะนำให้สตรี อายุตั้งแต่ 9 ปี ขึ้นไป ได้รับวัคซีนป้องกันมะเร็งปากมดลูก รวมถึงเริ่มตรวจภายในคัดกรองความผิดปกติของปากมดลูก ตั้งแต่อายุ 25 ปีขึ้นไป (หรือก่อนหน้านั้นหากมีเพศสัมพันธ์) และควรตรวจอย่างน้อยทุกๆ 2-3 ปี เพื่อสามารถพบเซลล์ผิดปกติของบริเวณปากมดลูกและช่องคลอด และทำการรักษาตามมาตรฐานได้ทันท่วงที
นพ.นพเมศฐ์ ศรีจารุสิทธิ์
แพทย์เฉพาะทางสูติศาสตร์-นรีเวชวิทยา และ มะเร็งวิทยานรีเวช
โรงพยาบาลพริ้นซ์ สุวรรณภูมิ
อ่านเพิ่ม กด https://www.bossbureau.com/Health & Beauty/